การแข่งขันฟุตบอลรายการไทยลีก 2021/22 ระหว่าง บีจี ปทุม VS การท่าเรือ เมื่อ วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2565 เวลา 18.00 น. ณ สนาม บีจี สเตเดี้ยม
สภาพความพร้อม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
“เดอะ แรบบิท” หรือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ผลงานล่าสุดทีมไม่เคยแพ้ใครในลีกมาแล้วถึง 12 เกมติดต่อกัน ใน 7 นัด เป็นการเสมอกัน แต่ล่าสุดพวกเขาโชว์ฟอร์มได้ดีกลับมาคว้าชัยในลีกได้ 2 เกมติดต่อกัน เมื่อสามารถไล่ถล่ม สมุทรปราการ ซิตี้ 3-0 ก่อนที่จะออกไปชนะแบบพลิกล็อกกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เขี่ย ปราสาทสายฟ้า ตกรอบในการคว้าแชมป์ในวันนั้นได้สำเร็จ ทำให้ปัจจุบันตอนนี้มี 48 คะแนน จากการแข่งขันทั้งหมด 26 นัด ครองรองจ่าฝูง โดยตามหลังทีมจ่าฝูงอยู่แค่ 9 แต้ม ขณะที่เหลือเกมอีก 4 นัด
สำหรับเกมนี้จะพร้อมทำศึกหรือไม่ มาโกโตะ เทกุระโมริ ไม่สามารถใช้งาน วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ อันเดรส ตูเญซ ที่กำลังติดโทษแบนทั้งคู่ รวมถึง ฉัตรชัย บุตรพรม ที่อยู่ในช่วงพักฟื้นหลังจากมีอาการบาดเจ็บ สำหรับนักเตะสำคัญอีกคนคือ ธีรศิลป์ แดงดา ก็น่าจะไม่สามารถลงทำศึกครั้งนี้ได้เนื่องจากร่างกายยังฟิตไม่ทันเช่นกัน จากข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมด้แน่นอน
ในเกมนี้คงวางแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย จักพัน ไพรสุวรรณ, อิรฟาน ฟานดี้,สันติภาพ จันทร์หง่อม และ อภิสิทธิ์ โสรฎา ส่วนกองหน้าตัวรับส่ง เชาว์วัตน์ วีระชาติ ประสานงานร่วมกับ สารัช อยู่เย็น ส่วนแนวรุกใช้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ และ ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต เป็นตัวคอยช่วยเกมให้ อิคห์ซาน ฟานดี้ เป็นตัวจบสกอร์
สภาพความพร้อม การท่าเรือ เอฟซี
การท่าเรือ เอฟซี
ในความพร้อมของทีมเยือนอย่าง “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ล่าสุดมีผลงานที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ด้วยการเอาชนะมาได้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น จากการลงสนามทั้งหมด 10 นัดแรกในเกมลีก เลกสอง แต่ว่าล่าสุดพวกเขาก็สามารถเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ เมื่อเปิดบ้านเอาชนะทีมเยือนอย่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-2 เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันมีคะแนนอยู่ 36 คะแนน จากทั้งหมด 26 นัด รั้งอันดับ 8 ของตาราง
สำหรับเกมนี้จะพร้อมทำศึกหรือไม่ ผู้จัดการทีมอย่าง จเด็จ มีลาภ จะไม่ส่ง เนลสัน โบนีญ่า ลงทำศึกในครั้งนี้ได้ เนื่องจากเดินทางกลับมาจากการรับใช้ชาติไม่ทัน อีกทั้งยังต้องรอตรวจถึงสภาพความฟิตของ โก ซุล กิ และ ดาบิด โรเชล่า แต่จะได้ เซร์คิโอ ซัวเรส ลงสนามหลังพ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้ทัน
ในเกมนี้ทางฝั่งทีมเยือนจะมาในแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน แนวรับ 4 คน ประกอบด้วย ดาบิด โรเชล่า, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, มาร์ติน สตูเบิ้ล และ เควิน ดีรมรัมย์ กองกลางหมอบหน้าที่ให้ ศิวกร จักขุประสาท ยืนคุมเกมร่วมกับ โก ซุล กิ ส่วนแนวรุกส่ง เซร์คิโอ ซัวเรส,ฟิลิป โรลเลอร์ และ บดินทร์ ผาลา เป็นตัวช่วยสร้างสีสันในเกม โดยมี อดิศักดิ์ ไกรษร คอยไล่ล่าตาข่าย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด : กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (GK),จักพัน ไพรสุวรรณ , อิรฟาน ฟานดี้,สันติภาพ จันทร์หง่อม, อภิสิทธิ์ โสรฎา, สารัช อยู่เย็น,วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ , ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, เชาว์วัตน์ วีระชาติ, ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต, อิคห์ซาน ฟานดี้
การท่าเรือ เอฟซี : วรวุฒิ ศรีสุภา (GK),ดาบิด โรเชล่า , ธนบูรณ์ เกษารัตน์, มาร์ติน สตูเบิ้ล, เควิน ดีรมรัมย์,ฟิลิป โรลเลอร์ , ศิวกร จักขุประสาท,โก ซุล กิ, เซร์คิโอ ซัวเรส, บดินทร์ ผาลา, อดิศักดิ์ ไกรษร
บทวิเคราะห์
สำหรับ เดอะ แรบบิท ไม่มีหนทางอื่นให้เลือก นอกจากจะต้องเก็บชัยชนะและคว้า 3 แต้มให้ได้ในทุกเกมที่ยังเหลืออยู่ และลุ้นให้ ปราสาทสายฟ้า แพ้จึงจะทำให้ทีมตนเองกลับมามีลุ้นในการป้องกันแชมป์อีกครั้ง แต่ถ้าหากพวกเขาทำพลาดในเกมนี้ แต่ บุรีรัมย์ สามารถเก็บชัยชนะได้สำเร็จ ทีมดังจากแดนอีสาน ก็จะคว้าแชมป์ไทยลีกไปครองทันที ทำให้ในการแข่งขันครั้งนี้ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
สกอร์ที่คาด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2-1 การท่าเรือ เอฟซี